EQM Platform EQM Platform

Inspiring Stories

นวัตกรรมการจัดการน้ำบนพื้นที่สูง: Neo Solar อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

นวัตกรรมการจัดการน้ำบนพื้นที่สูง: Neo Solar อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างเข้มแข็ง การสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความต่อเนื่องในการดูแลระบบ

Key Success

ปัญหาและความท้าทาย

จังหวัดน่าน กำลังเผชิญกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง ซึ่งนำไปสู่การลดลงของพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ นอกจากนี้ เกษตรกรยังใช้วิธีเผาซากพืชหลังเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ที่กระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชนและสร้างความกังวลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

แม้จะมีความพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เกษตรกรยังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญคือ ปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากภูมิประเทศของน่านส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง แหล่งน้ำจึงมีอยู่อย่างจำกัด ในสถานการณ์เช่นนี้ เกษตรกรจำนวนมากก็ยังคงเลือกปลูกข้าวโพด เนื่องจากปลูกง่าย ทนแล้ง และให้ผลผลิตสม่ำเสมอ ทำให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องการทางเลือกที่เหมาะสมทั้งในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

แนวทางการแก้ไขปัญหา

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ได้ริเริ่มโครงการ “หมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อสังคม” ในพื้นที่ชุมชนเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาช่วยแก้ปัญหาสำคัญของชุมชน เช่น การขาดแคลนน้ำบนพื้นที่สูงและการเผาเศษวัสดุการเกษตร ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

หนึ่งในนวัตกรรมที่นำมาใช้คือ โครงการ Neo Solar ซึ่งเป็นระบบจัดการน้ำเพื่อการเกษตรที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการสูบน้ำจากแหล่งน้ำขึ้นสู่บ่อพักบนจุดสูงสุดของพื้นที่ แล้วปล่อยน้ำลงสู่แปลงเกษตรผ่านระบบควบคุมอัตโนมัติ ลดภาระแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ระบบนี้ถูกออกแบบให้เหมาะกับภูมิประเทศภูเขาที่ลาดชัน ด้วยการสูบน้ำแบบ “ขั้นบันได” โดยมีบ่อพักน้ำในแต่ละระดับก่อนส่งลงสู่พื้นที่เพาะปลูกตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีการใช้ แพลตฟอร์ม SQUARE ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำด้วยการวิเคราะห์ความต้องการน้ำของพืชแต่ละชนิด แล้วจัดสรรน้ำให้เหมาะสม เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ ทำให้เกษตรกรรู้สึกเป็นเจ้าของโครงการ และส่งเสริมความต่อเนื่องในการดูแลรักษาในระยะยาว

ผลจากการดำเนินโครงการ ทำให้เกษตรกรกว่า 600 รายในพื้นที่สามารถเข้าถึงน้ำได้เพียงพอสำหรับทำการเกษตร และเริ่มเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไปสู่การปลูกไม้ผล เช่น มะม่วงและลำไย ที่สร้างรายได้สูงกว่าและเป็นมิตรต่อระบบนิเวศมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในโครงการนี้ คือ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ควบคู่กับการมีส่วนร่วมของชุมชนที่เข้มแข็ง ชาวบ้านเปิดรับนวัตกรรมใหม่บนพื้นฐานของระบบการบริหารจัดการภายในที่ดี มีผู้นำชุมชนที่แข็งแรง มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก และทุกคนมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาหมู่บ้านอย่างยั่งยืน

ข้อมูลจาก: 
•   ธีรโชติ สัตตาคม, วรนารถ ดวงอุดม, และ กนกรัตน์ ยศไกร. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการพัฒนาหมู่บ้านนวัตกรรมเพื่อสังคมของชุมชนเมืองจัง ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน. วารสารราชนครินทร์, 20(2), 1-15.
•   วรรนิภา พงษ์ไทยสงค์. (14 เมษายน 2564). กรณีศึกษาชุมชนเมืองจัง จังหวัดน่าน “เกษตรกรรมบนพื้นที่สูงกับระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร”. SOCIAL INNOVATION นวัตกรรมเพื่อสังคม. https://social.nia.or.th/2021/article0013/  
•   Facebook NIA - National Innovation Agency Thailand. https://www.facebook.com/photo?fbid=4619626748074615&set=a.203946639642670

รูปภาพจาก: 
กรุงเทพธุรกิจ. (28 มกราคม 2563). เอ็นไอเอจุด 'พลังนวัตกรรม' อัพความสุข 8,200 ครัวเรือน.
https://www.bangkokbiznews.com/tech/863835



ปรับปรุงล่าสุด : 22 กันยายน 2568 16:05 ปรับปรุงโดย : Administrator