การจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองและศิลปกรรมในเมืองเก่า: จังหวัดสงขลา
การผสานงานอนุรักษ์กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเคารพความเชื่อดั้งเดิมและพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ ซึ่งอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาควิชาการ เอกชน และประชาชน รวมทั้ง การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชุมชนจะช่วยให้สามารถนำมาใช้ในการสืบทอดและต่อยอดภูมิปัญญาให้ร่วมสมัยและมีพลังในการขับเคลื่อน
Key Success
ปัญหาและความท้าทาย
เมืองเก่าสงขลา ได้ผสมผสานระหว่างการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำให้เมืองยังคงมีชีวิต มีความร่วมสมัย และไม่สูญเสียอัตลักษณ์ ถือเป็นการปรับกระบวนทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดความเชื่อมโยงกันในมิติต่างๆ อย่างกลมกลืน
หัวใจสำคัญของการอนุรักษ์เมืองเก่าสงขลาคือศิลปกรรมสิ่งแวดล้อมเมืองเก่าซึ่งหมายถึงการออกแบบ อนุรักษ์ และบริหารจัดการพื้นที่โดยคำนึงถึง 3 มิติหลัก ได้แก่
1. ศิลปกรรม (Art & Architecture) เช่น อาคารเก่า บ้านเรือน วัด มัสยิด ตึกแถว รวมถึงสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานจีน-ยุโรป-พื้นถิ่น ที่โดดเด่นในย่านถนนนางงาม เช่น ตึกชิโน-ยูโรเปียน
2. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ (Physical Environment) เช่น ลำคลอง ทะเล เขา พื้นที่เปิดโล่ง และผังเมืองที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตดั้งเดิม
3. บริบททางวัฒนธรรมและสังคม (Cultural-Social Context) เช่น ประเพณี ความเชื่อ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความสัมพันธ์ของผู้คนกับพื้นที่ เช่น ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้า หรือสะพานประวัติศาสตร์
แนวคิดนี้มุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูที่ไม่แยกศิลปกรรมออกจากบริบทของพื้นที่ แต่เน้นการรักษา “ความอยู่ดี” ของเมือง บนพื้นฐานของความทรงจำและความร่วมมือของชุมชน เมืองเก่าสงขลาจึงไม่ได้เป็นเพียงเมืองที่เก็บอดีตไว้ แต่เป็นเมืองที่ใช้รากวัฒนธรรมสร้างอนาคต
เมืองเก่าสงขลายังสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างชัดเจน อาคารโบราณบางแห่งมีอายุกว่า 80-100 ปี มีทั้งรูปแบบจีน โปรตุเกส และไทยผสมผสานกัน ขณะที่ศาสนสถานในพื้นที่ก็หลากหลาย เช่น วัด มัสยิด สุสาน และศาลเจ้า ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน แสดงถึงการอยู่ร่วมกันของคนต่างวัฒนธรรมและชาติพันธุ์อย่างกลมกลืน
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย เช่น การที่พื้นที่ฝั่งโบราณอย่างเขาแดงและสิงหนครยังไม่ได้รับการประกาศเป็นเขตเมืองเก่า ทำให้ชาวบ้านกังวลว่าการประกาศพื้นที่อนุรักษ์อาจจำกัดสิทธิในการใช้ที่ดิน แนวทางแก้ไขคือการสร้างความเข้าใจร่วมกันผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชน และเน้นย้ำว่าการอนุรักษ์ไม่เท่ากับห้ามพัฒนาแต่คือการพัฒนาอย่างมีความรู้และความเข้าใจในคุณค่าของพื้นที่
อีกปัญหาหนึ่งคือผลกระทบจากการจัดงานอีเวนต์ของจังหวัดที่มักจัดในพื้นที่เขตเทศบาล เช่น งานกาชาดหรือเทศกาลใหญ่ ซึ่งดึงความสนใจและลูกค้าออกจากย่านเมืองเก่า และเปิดโอกาสให้ผู้ค้าจากนอกพื้นที่เข้ามา ทำให้ผู้ค้าท้องถิ่นในเมืองเก่าถูกกระทบโดยตรง แนวทางแก้ควรมุ่งกระจายกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ต่อทุกกลุ่ม และจัดงานให้สอดคล้องกับแนวคิดการอนุรักษ์ เพื่อเสริมสร้างเมืองเก่าให้คงคุณค่าไปพร้อมกับการมีชีวิตใหม่
การดำเนินงาน
เมืองเก่าสงขลาเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะโดดเด่น ทั้งในด้านศิลปกรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะย่านสำคัญอย่างย่านบ่อยาง นครใน–นครนอก ถนนนางงาม และฝั่งเขาแดง–สิงหนคร ที่เต็มไปด้วยโบราณสถาน เช่น ป้อม กำแพงเมือง และคูเมืองเก่า ล้วนสะท้อนรากวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเมืองที่มีอายุนับร้อยปี
แนวทางการจัดการเมืองเก่าเน้นการใช้ทรัพยากรดั้งเดิม เช่น อาหารพื้นเมืองและอาคารประวัติศาสตร์ มาเป็นฐานสร้างสรรค์ เช่น การจัดทำข้อมูลภาพถ่ายและคำบรรยายเกี่ยวกับวัฒนธรรมและตำนานของชุมชน รวมถึงการสร้างความเข้าใจในคุณค่าของเมืองให้กับคนในพื้นที่ โดยย้ำว่า “การอนุรักษ์คือทุนวัฒนธรรม” ที่สามารถต่อยอดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
จุดเน้นของแนวคิดศิลปกรรมสิ่งแวดล้อมเมืองเก่า ในสงขลา คือ การอนุรักษ์เชิงรุก ไม่ใช่แค่เก็บรักษาให้อยู่ในสภาพเดิมเท่านั้น แต่คือการนำมาใช้ร่วมกับการพัฒนา เช่น การเปิดร้านกาแฟสมัยใหม่ในตึกเก่าโดยคงโครงสร้างเดิมไว้ ใช้เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศดั้งเดิมเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว โดยชาวบ้านทำหน้าที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่มีส่วนร่วมในการดูแล และในการพัฒนาอาคารใหม่ ควรออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทเดิม ทั้งวัสดุ รูปทรง และโทนสี เพื่อไม่ให้ตัดขาดจากความทรงจำของเมือง
ความสำเร็จของเมืองเก่าสงขลายังเกิดจากการทำงานแบบบูรณาการ มีคณะทำงานจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนด้านวิชาการและประสานงานระดับพื้นที่ สำนักศิลปากร ดูแลข้อมูลประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ เน้นงานชุมชนศึกษาและองค์ความรู้ท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ประสานงานด้านศิลปะและวัฒนธรรมกับชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสงขลา ดูแลด้านออกแบบและสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและตลาด
ขณะเดียวกัน ชุมชนในพื้นที่ก็หลากหลาย ทั้งข้าราชการ นักศึกษา ผู้ค้า ผู้ประกอบการรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ต่างอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ความหลากหลายนี้กลายเป็นจุดแข็ง เพราะแต่ละกลุ่มนำความรู้และประสบการณ์กลับมาต่อยอดพัฒนาบ้านเกิดโดยไม่มีความขัดแย้ง
ในด้านโครงสร้างสนับสนุน ได้มีการจัดตั้ง “มูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก” โดยอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเป็นหน่วยขับเคลื่อนงานอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง มูลนิธินี้มีบทบาทเชื่อมโยงแผนงานจากหลายภาคส่วน รวมถึงการจัดหาทุนแบบเปิดกว้าง เช่น ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากเอกชนอย่าง ปตท. มาช่วยผลักดันโครงการ มูลนิธิฯ ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมทิศทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองเก่า ให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง ไม่สะดุดแม้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับจังหวัด ถือเป็นโครงสร้างที่มีความมั่นคงและมีพลังในการผลักดันเมืองเก่าสงขลาให้ก้าวสู่ความเป็นมรดกโลก
• สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.(ไม่ระบุวันที่).ย่านเมืองเก่าสงขลา. https://culturalenvi.onep.go.th/site/detail/4836
